Monthly Archives: December 2021

สาวนุ้ย พั่ดลุ้งงงงงง เหมี่ยวผู้แสนจะขยัน

สาวนุ้ย พั่ด_ลุ้งงงงง
รู้จักเหมียวตั้งแต่จะจบงาน อยุธยา ไฮเทค ๑๘๐๑ จากการชักนำของ”ป้าใจ” บอกว่า หลานสาวอยากมาทำงานช่วงว่างๆ เคยทำงาน “โลตัส” มาก่อน งานสั้น ๆก็ทำ ว่าแล้วก็ให้ดูรูปในโทรศัพท์​แผล่บนึง ก่อนส่งหลักฐานจิปาถะมาให้ทางไลน์ ก็เลยบอกว่า ให้ติดต่อไปทาง “ผุสดี”​ ว่าจะเหมาะสมงานอะไรไหม (ณ เวลานั้น รู้แล้วว่า ระยองจะมีงาน ๑๘๐๒ และ เช่นเคย งานเล็ก ๆ โลกไม่จำ ไม่มีคนรับทำงาน…. ก็ต้องอดิศร คนว่างงานทั้งปี)
กลับมา ลลก.​ก็ถามผุสดีว่า เป็นงัยบ้างหลานป้าใจ โอเคไหม จะได้รับมาช่วยระยองสักสามเดือน…​ผุสดีบอกว่า ก็หลักฐานโอเคนะ พอจะบอกอะไรต่อ ผุสดีบอกว่า “เขาขึ้นรถไควมารอที่บ้านป้าใจแล้ว….”

นั่นคือ การเปิดตัวเหมียวในครั้งแรกที่ได้เจอกัน ก่อนจะจบงาน ๑๘๐๑ เหมียวก็ฝึกงาน ดูของ ดูสโตร์ ติดตามของจากผรม. ทำยืม ทำรับ เติมน้ำมัน จิปาถะ เพิ่งมารู้ภายหลังว่า ทุกอย่างคือ ครั้งแรกของเหมี่ยว และด้วยความเป็นมวยรอง เหมี่ยวพยายามทุกอย่าง จะถูกแกล้ง ถูกอำ หรือ ขับไล่ไสส่ง ดูถูกดูแคลนอย่างไร เหมียวอดทนผ่านมันไปได้

ผุสดี พา”น้องใหม่” ไปออกงาน ๑๘๐๒ ไปสำรวจห้องพัก สำนักงาน ฯลฯ ที่ระยอง เหมียวก็ไปมาแบบตื่น ๆ ใครให้ไปไหน ก็ไปหมด ไปด้วย (ตอนนั้น ยังเป็นพนักงานรายวันธรรมดาด้วยนะ)

เริ่มงาน เหมี่ยวออกสนามไปอยู่ระยอง ช่วยทำหน้าที่ นั่น โน่น นี่ ของงาน HDD ที่เราใช้ผรม.​ เหมียวไม่เกี่ยง ที่จะต้องนอนสำนักงาน กับทอมไสยศาสตร์​เจ้าตี๋ (ซึ่งเจอเจ๊ลิ้นจี่ถีบออกนอกห้องที่อยุธยา)ถึงจะต้องกางมุ้งนอนนอกห้อง ก็ยอมรับได้ เผลอแผล่บเดียว เหมียวก็ไปอยู่หน้างาน ในฐานะ จป.เหมียว กับลุงจำลอง ไปอำนวยจราจร ไปตรวจความปลอดภัย คนซิโนไทย ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า จป.เหมียว ที่ขยันขันแข็งนี้ ไม่ได้ผ่านอะไรมาแบบจป.ตี๋ด้วยซ้ำ แต่กรำแดดหน้างานตลอด ๆ

ใกล้หมดงาน เหมียวเลือกที่จะไปต่อด้วยตัวเอง ติดสอยห้อยตามลุงจำลองมาลลก.​และ ต่อไปยังโคราชแบบ”ไปต่อไม่รอแล้ว”​ นี่คือ การตัดสินใจชีวิตของเหมียว ที่มีแรงผลักดันมาจากการสู้งาน ไม่เกี่ยง ไม่สนว่าใครจะมองยังไง เหมียวรู้ดีว่า เหมียวทำอะไรอยู่ เพื่ออะไร…
ที่โคราช ๑๘๐๓ เหมียวขยับขั้น เป็นเจ้าหน้าที่สโตร์รายวัน ดูแลงานเบิกจ่าย สิ่งของ ให้กับ ผรม.​และ คนของเราเอง นอกจากนั้นก็เป็นศุนย์รวมของพนักงานทั้งรายวัน รายเดือน(บางกลุ่ม) ในการดูแลกันและกัน ทำอาหารเช้า เที่ยง หรือ เย็น สังสรร กับเชฟตั้ม และ สหาย จนดึกค่ำ อีกวัน ก็กลับมาทำงานแต่เช้าตรู่ หากผมเดินทางไปจากกทม.​ถึงโคราชเช้า หรือ นอนโคราช แล้วเข้าไซต์เช้า ไม่มีเลยสักครั้ง ที่ผมจะไปที่แคมป์ก่อนเหมี่ยว …​เหมี่ยวอยู่ตรงนั้นตลอด ยังกับนอนที่นั่น ห้องนอนที่แสนสบายเหมียวก็มี บริษัท จัดให้อยู่แล้ว แต่เหมียวก็ใช้มันแค่พอนอนพักเท่านั้น หน้าที่ คือ การมาแจกจ่ายของ เครื่องมือ ให้คนงานไปทำงานแต่เช้า และ ดูแลงานสถานที่ ให้ทุกคนทำงานได้ไม่ติดปัญหา

เหมียวดูแลรักษาของ วัสดุ และ เครื่องมือ ของบริษํท แบบกัดไม่ปล่อย ถ่ายรูปรับของ ทำเอกสารตัดจ่ายของประจำสัปดาห์ (จริง ๆ หน้าที่ของอีกคน ที่ต้องทำ) ใช้ลายมือ กับปากกา ไม้บรรทัด ไม่รู้งานคอมพิวเตอร์ทำเอกสาร ส่งเข้ามา ไม่เคยขาด ไม่ต้องให้ทวงถาม และ เมื่อคอมเมนต์อะไร กลับไป นั่นคือ ครั้งเดียว เพราะต่อมา เหมียวจะไม่เคยที่จะทำอะไรพลาดซ้ำสอง เหมียวเรียนรู้จากทุก ๆ คำแนะนำ

แม้จะมีบ้าง ที่พวกลากมากไป แต่การพูดคุยกับเหมียวนั้น มีอย่างนึง ที่เหมียวไม่เคยเปลี่ยน คือ “การไม่(อยาก)โกหก” แม้บางเรื่องจะเป็นเรื่องของพวกพ้อง เหมียวเลือก ที่จะไม่พูด ไม่สร้างเรื่อง ไม่เสแสร้งแกล้งดี เพื่อให้ตัวเองดี คนอื่นชั่ว ….​เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เหมียว และผมเองก็จะพอทราบ ที่จะไม่ไล่เหมียวไปจนสุดซอย ที่จะทำให้ทุกตนต้องมารังเกียจเหมียวในภายหลัง สิ่งนี้ เหมียวไม่เคยเปลี่ยนจนทุกวันนี้

หมดงานโคราช เหมียวเป็นแม่งาน การย้ายของ กลับมาเก็บไว้ที่วังน้อย อย่างสมบูรณ์ ของหลายอย่าง ยังคงอยู่ให้คนในรุ่นนี้ นำไปใช้งานได้ แบบไม่เห็นคุณค่า การจัดเก็บ การตีร้านรับ แข็งแรง หนาแน่น และ มันจะอยู่เป็นอนุสรณ์ให้เราเห็นว่า นั่นคือ การผลักดันของเหมียว ที่ทำมากับมือ เหมียวทำรายการคืนของ อุปกรณ์ทั้งหมด แม้บางรายการสโตร์จะบอกว่า “ไม่มีในรายงาน” แต่เหมียวก็ทำ และ ครบถ้วน ถูกต้องเสียด้วย

หลังจากนั้น เหมียว”รายวัน”​ก็เข้ามาสู่ ลลก.​“รายเดือน” ทดลองงาน ในตำแหน่งผู้ช่วยสโตร์ เหมียวได้ขยับเข้ามาใกล้งานที่ตัวถนัด ทำได้ดี และ เมื่อเป็นน้องใหม่ เหมียวไม่เกี่ยง พี่ ๆ ให้ทำอะไร เหมียวทำให้หมด ….​พี่จะหยุด เหมียวเฝ้าให้ พี่จะก็อปปี้ สแกน เหมียวทำให้ การเดินทางจากบ้านมาทำงาน มันไม่ใช่ง่าย ๆ มันไกล และ ลำบาก แต่เหมียวอดทน และ ที่ผมรับทราบคือ เหมียวไม่เคยบ่นเลย ว่าเดินทางลำบาก… และ เพื่อนรวมงานทุกคน ก็จะคอยดูแล เวลาเหมียวจะกลับบ้าน อาจจะติดรถไปด้วยกัน บางวัน หน้างานมีของมาลง ให้อยู่รอ (หน้าที่คนอื่น)​เหมียวก็รอให้ ช่วยเหลือ ไม่ว่าอะไร ส่วนการกลับบ้าน ทุกคน ไม่สนใจ…..​นี่คือ สิ่งที่เหมียวทำให้กับทุกคน

เหมียวเป็นมวยรอง ต่อการทดลองงานแล้ว ต่ออีก จน ป้าหญิง ถอดใจลาออกไป ตำแหน่งงานว่างลง กับผจก.​และ สองหน.งาน ระดับสูง ๆ ที่ “ขาดผู้ช่วย”​ไม่ได้ และเหมี่ยวฟันผ่าตัวเอง พิสูจน์ให้เห็นว่า สาวนุ้ยบ้าน ๆ ที่ค่อย ๆ มาจับเอ็กเซล แมคไฟว์ และ เวิร์ด ทำเมโม ขอซ่อม เร่งงาน ติดตาม ฯลฯ แม้กระทั่งสแกนงาน ก็อปปี้ ส่งซอง รับซอง จากสนง.ใหญ่ เหมียวรับทำหมด
เขาจะมานับสต็อค ไปนับทรัพย์สิน เหมียวไปได้หมด ชื่อเครื่องมือ วัสดุ อื่น ๆ “พี่เหมียวช่วยหน่อย … “ ไม่เคยมีคำว่า “ไม่” จากปากของเหมียว ไปค้างอ้างแรมกับเขา เพื่อช่วยงานเขา ก็ไป (ไม่ได้เฉลียวใจเลย ว่า ข้างหลัง เขาจะช้อน”ความหวังดี​“ นี้ ไปเป็นของเขา)

ในที่สุด เหมียวก็ผ่านการทดสอบอย่างสุด ๆ และ เข้าเป็นพนักงานรายเดือนคนใหม่ของสนง.ลลก.​ พ่วงด้วยการต้องทดลองงานในตำแหน่งนั้นอีก ๑๑๙ วัน ถ้าให้นับวันทดลอง ทดสอบ ของเหมียวแล้ว ผมว่า ยาวนานที่สุดไม่เป็นสองรองใครในแผ่นดินบึงคำพร้อย ถามว่า เคยปริปากไหม ….​ไม่เคยได้ยินนะ (อาจจะมีบ้าง แต่ผมไม่ได้ยิน)

เหมียวในหน้าที่ใหม่ ดูแลงานในหน้าที่ ดูแลพื้นที่ รปภ.​และ ขยายวงไปวังน้อย ในกลุ่มวงจรปิด ของบริษัท การเข้าออกของบุคคลแปลกหน้า และ หน้าแปลก เพื่อวัตถุประสงค์สีเทา ๆ ไม่พ้นสายตาของเหมียว บางที แม้จะไม่ผ่านหัวหน้างาน เหมียวก็แสดงจุดยืนชัดเจนไปกับ รปภ.​ถึงเรื่องที่ควรทำ เรื่องที่ถูกต้อง (ผมเข้าใจว่า หลังจากนั้น เหมียวคงรายงานให้เบื้องบนทราบ แต่อาจจะไม่ได้รับการตอบสนอง) แม้จะถูกกกล่าวหาว่าเป็น “นกสองหัว”​หรือ “หนอนบ่อนไส้​“ คำพูดแบบนี้ ไม่ได้ทำให้เหมียวต้องกลืนเลือดมาเป็นพวกเดียวกับผู้ทำไม่ถูกต้อง และ ผมเชื่อว่า เหมียวทำถูกแล้ว

กิจกรรมบริษัท จะพาไปไหน บ้านคนชราฮาเฮ บุรีรัมย์ หรือ กระทั่งทำขนมจีนไตปลาเลี้ยงคนงาน เหมียวทำหมด ทำไม่ได้ ล้างจาน ล้างถ้วย ก็ยังดี ไม่เคยห่วงสวยห่วงหน้าที่

วันดีคืนร้าย แม่บ้านออกไปซะงั้น เหมียวซึ่งเดินทางมาทำงานแต่เช้าทุกวัน ก็รับอาสาดำเนินการให้ ทั้งกวาด ถู เช็ด ล้างห้องน้ำ ทำแบบพระสังข์ทอง ตอนไม่มีคนเห็น กว่าคนจะมาทำงานกัน แปดโมงครึ่ง ก็เหมือนสนง.ไม่เคยมีคนทำสกปรก ก็ขี้เยี่ยว กันตามปรกติไป สิ่งที่เหมียวทำนี้ เหมียวไม่เคยบอก หรือ บ่นให้ใครฟัง ผมเห็นกับตาเอง เมื่อลงมาจากจังหวัดตาก มาที่ ลลก.​และ ยังถามว่า “ทำไปทำไม คนอื่นเขาเลยไม่หาคนมาแทน”​ เหมียวตอบว่า “ช่วยได้ ก็ช่วยกันพี่เต้ย หนูทำได้…..” นั่นคือ ใจของเหมียว

ช่วงหลัง ผมอยู่ไทรทัน ผมจะเจอเหมียวบ้าง งานวาน งานอาสา เอาข้าวสาร ป้าย ฯลฯ ไปร่วมห่อ ในกิจการบริษัท ไปบริจาค ไปช่วยเหลือคน บางคนอาจจะมองเหมือน หรือ เหมียวไม่มีงาน ? จึงมาช่วยได้บ่อย ๆ (แบบคนอื่น ๆ พูดว่า ช่วยไม่ได้หรอก งานเยอะ ไม่ว่าง) ผมไม่คิดอย่างนั้นหรอก เพราะ เหมียวจะพูดแบบนั้น ก็ทำได้ แต่ด้วย”หัวใจ” แล้ว การช่วยเหลือ การเป็นมวยรอง การอาสา นั่นคือ สิ่งที่มวยรองต้องทำ เพื่อให้ทุกคนรัก และ เอ็นดู และ เพื่องานที่รักของตนเองด้วย เช่นเคย เหมียวไม่เคยบ่นอะไร เรื่องนี้

จริง ๆ แล้ว ผมไม่ค่อยได้เจอเหมียวเลย แม้บ้านเราอยู่ใกล้กัน ที่คลองสอง เคยฝากเอกสารหากัน ต้องไปรับส่งเอกสารที่ใต้ตึก เหมียวก็ทำให้ ไม่เคยปฏิเสธ ภาพเหมียว ที่ทำงานตลอดเวลา แม้ผมจะไม่ได้เป็นคนอนุมัติการลาของเหมียว ผมก็เคยทราบว่า เหมียวไม่มีลาเลอะเทอะ ลาขี้แตก ลาหวยแดก หรือ อื่น ๆ ใด ๆ นอกจาก “ลากลับบ้าน” และไม่ใช่บ่อย ปีละครั้งเท่านั้น ที่จะต้องอัดรถปลากระป๋องลงไปพัทลุง รถติด ๆ ใจอยู่ที่บ้าน กลับมาก็ตามเวลาบริษัท ไม่มีหัวหมอ รถติด สะพานขาด บ้านถูกยึด ฯลฯ นั่นคือ เหมียว

วันหยุดทั่วไป เหมียวพาหลานไปดูหนัง ไปกินหมูกะทะ (เชื่อว่า เหมียวจ่าย หลานจะไม่มีเงินได้งัย) นั่นคือ ความสุขเล็ก ๆ ของคนไกลบ้าน เท่าที่พึงจะทำได้

ความเคลื่อนไหว ที่ผมเห็นเหมียวอีกอย่าง คือ การอับไทม์ไลน์ ไม่ได้อัพเรื่องตัวเอง …​แต่คือ ลูกทั้งสอง แก้วตาดวงใจ ของเหมียว ไม่ว่าจะไปประกวดลีดเดอร์ หรือ ทำกิจกรรมอะไร เหมียวจะมีความสุข ที่ทำให้กับน้องทั้งสองนี้ ไม่เห็นกับเหน็ดเหนื่อย นั่นคือ ความสุขของแม่ ที่ได้พบลูกแค่ปีละครั้งเท่านั้น ปีละครั้ง มันยาวนานมากสำหรับคนที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อลูก……​

เมื่อชีวิต กำหนดให้เราพบเจอกันในงาน แค่เท่านี้ ผมเองก็รู้สึกใจหาย กับช่าวในวันนี้ แต่ที่ผมไม่แปลกใจ คือ ความเข้มแข็งของเหมียว ที่บอกว่า กลับบ้านก่อนพี่เต้ย แล้วว่ากัน …. เหมียวยังเป็นนักสู้ สู้เพื่อลูก และผมขอยืนยันตรงนี้ หากเหมียวมองย้อนไปในเวลาของตัวเอง สามปีที่ผ่านมา เหมียวได้อะไรมาเยอะมาก ๆ (ไม่ใช่เงิน) เพราะ การที่เหมียวเป็นมวยรอง เป็นผู้ที่ต้องสู้ชีวิต และ สิ่งนั้น มันจะอยู่กับเหมียวไปตลอด โอกาสจะมาหาผู้ที่ไขว่คว้ามันไว้ ผมรับรองว่า ความสามารถที่เหมียวมี ตอนนี้ มากเกินกว่า ค้าจ้างที่ที่นี่ว่าจ้างเหมียวเอาไว้ด้วยซ้ำ และ เทียบไม่ได้เลยกับการรู้สึกมีส่วนร่วม หวงแหน และ ดูแลทุกอย่างของบริษัท ฯ

เมื่อฟ้าได้ลิขิตแล้ว ผมขอรับรองได้เลยว่า ก่อนจะรู้จักกัน เหมียวอาจจะดูธรรมดา แต่หากได้มารู้จักกันเสียแล้ว เหมียวไม่ธรรมดาแน่นอน และ เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ผมเลือกเหมียวแน่นอนเช่นกันครับ ผมอยากจะให้คนอื่นเห็นสิ่งนี้จากเหมียวเช่นกันนะ

ขอให้เหมียวโชคดี เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง มันจะเป็นการเปิดประตูอีกบานหนึ่งของชีวิตเสมอ
ขอบคุณที่ร่วมดูแลกันมา
อดิศร ๒๔ ธค. ๖๔

เหมียวขอบคุณทีมงาน

ขอบคุณพี่เต้ยนะที่ให้โอการนู๋ได้มาทำงานที่บริษัทไทรทันจากเด็กที่ไม่รู้จักเครื่องมืออะไรสักอย่างและขอบคุณมาดามเยาะน์ที่คอยสอนคอยบอกทุกเรื่องขอบคุณจากใจจริงๆๆ

เพื่อนตั้ม แต่งกลอนให้ด้วย

คนแปลกหน้ามาที่นี่หลายปีก่อน
รับคำสอนรับสุขรับทุกข์ถ้วน
ใครทำดีทำร้ายใจประมวล
จำแต่ส่วนดีไว้อภัยกัน

บัดนี้คนคุ้นหน้าจะลาลับ
วันใดกลับยังมิอาจจะคาดฝัน
จากไปตามวิถีแห่งชีวัน
ใช่หมายมั่นลาจากเพราะอยากไป

โชคดีครับพี่เหมียว

ปิดท้ายกลอน

เหมียวพัดลุง มุ่งงาน ไม่นานหรอก
ใครจะบอก สอนสั่ง ฟังเพื่อรู้
ผิดไม่ว่า ขอให้บอก ถือเป็นครู
ค่อยเรียนรู้ สู้คนได้ ไม่อายใคร

กาลผ่าน ไม่นาน เหตุการณ์เปลี่ยน
ใครใฝ่เรียน เพียรงาน เป็นการผิด
ต้องคิดสั้น ไม่รั้นหัว มั่วนิด ๆ
ไม่ต้องคิด ขานรับนาย ไม่ตายเอย

ถ่ายรูปในวันสุดท้ายของการทำงาน วันที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า พรุ่งนี้ จะไม่ต้องมาทำงานแล้ว
เลี้ยงอำลาเหมียว ที่ย่างเนย ลำลูกกา แถวบ้านเรา โอกาสมี ก็คงพบกันใหม่นะเหมียว ขอให้โชคดี